Period ( . )
1.ใช้เมื่อจบประโยคในประโยคบอกเล่าหรือประโยคคำสั่ง
I saw the boy.
Let's go to the shop.
Give me the pen please.
2.ใช้หลังอักษรย่อต่างๆหรือคำย่อ
Dr.=Doctor,
adv.=adverb
U.S.A.=United States of America
Comma ( , )
Thailand, a country in Asia, is famous for its beautiful temples.
2. ใช้แยกระหว่างคำที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันเช่น
I want a car, a motorcycle, and a bicycle.
3.ใช้แยกคำคุณศัพท์ที่บอกสี
a blue, yellow bicycle
4.ใช้แยกคำคุณศัพท์ที่ตามหลังคำนาม
The modal is dark, tall and handsome.
5. คั่นข้างหน้าหรือข้างหลังชื่อ เช่น
Christina, where have you been?
What would you like to eat, Pranee?
6. คั่นประโยคที่ตามหลัง Yes, No และ Well ที่ขึ้นต้นประโยค
Are you Thai? Yes, I am.
Well, I'm not sure if I can do that.
7. ใช้เพื่อแยกข้อความในประโยคคำพูดเช่น
He said, "They are happy."
8. คั่นระหว่างปีที่ตามหลังเดือน, ถนนกับเมือง,เมืองกับประเทศเช่น
Today is May 4th, 2000.
Dang lives at 56 Sukumvit Road, Bangkok.
Semi-colon ( ; )
1. ใช้คั่นประโยคที่มีเครืองหมาย comma คั่นอยู่แล้วเช่น
Hello, Nittaya; Please come here.
2. ใช้ทำหน้าเพื่อเชื่อมประโยคสองประโยคที่มีเนื้อหาเกี่ยวพันกันวางไว้หน้า adverbได้แก่คำว่า
therefore(ดังนั้น) besides(นอกจากนี้) เป็นต้น
Canada is very cold; therefore people must wear heavy coats in the winter.
Colon ( : ) 1.ใช้ colon ก่อนการประโยคอธิบาย
He decided to buy a car:he had to travel to the remote area.
2.ใช้แจ้งรายการ ซึ่งนิยมใช้หลังคำเหล่านี้ the following หรือ as follows เป็นต้น เช่น
We require the following for our camping trip: tent, bags, and boots.
Question Mark ( ? )
ใช้กับประโยคคำถามเช่น
Is that food hot?
What is your nationality?
Do you like durian?
How tall are you?
Exclamation Mark ( ! )
ใช้หลังคำอุทานหรือประโยคอุทาน เช่น
Oh! you are so beautiful.
Watch out!
Go away!
Apostrophe ( ' )
1. ใช้แสดงความเป็นเจ้าของของคำนามทั้งนามเอกพจน์และนามพหูพจน์ เช่น
The doctor's car
The men's club
Somkiet's dog
2.ใช้แสดงความเป็นเจ้าของของคำนามพหูพจน์ที่เติม s หรือชื่อเฉพาะที่มี s เช่น
The girls' books
Charles' school
3. ใช้คำย่อหรือรูปย่อ
can't (cannnot)
it's (it is)
I'd rather (I woud rather)
Quotation Marks ( " " )
ใช้เขียนคร่อมข้อความที่เป็นประโยคคำพูดเช่น
He said, "I am going home."
"I can help you move," Narong volunteered.
Hypen ( - )
ใช้เพื่อเชื่อมคำสองคำให้เป็นคำเดียวกันเช่น
ex-husband
anti-American
two-day holiday
Dash ( - ) ใช้เพื่อเน้นข้อความที่แทรกเข้ามาเพื่ออธิบายหรือใช้คั่นคำละไว้ในฐานที่เข้าใจหรือเปลี่ยนใหม่ เช่น
I got lost, forgot my bag, and missed my plane-- it was a terrible trip.
If I had a lot of money, I would ---Oh, what am I thinking? I will never be rich.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น