ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS

Introduce myself


     My name is Nantawan Thongruang. Now, I'm studying English Education years 3 in Nakorn Si Thammarat Rajabhut university. My ID is 5311114004. You can call me Tang or Tangy. ^^








  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

เทคโนโลยีใหม่ๆ ในห้องเรียนระดับโลก


เทคโนโลยีใหม่ๆ ในห้องเรียนระดับโลก
(Innovative Educational Technology in the Global Classroom)

           โลกาภิวัตน์และนวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญของการศึกษาของครู ESOL และ ครู TESOL เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการปฏิบัติทางการศึกษา ซึ่งกล่าวได้กล่าวว่า "เมื่อสร้างงานเทคโนโลยีแบบบูรณาการครูควรพิจารณาสิ่งที่พวกเขาต้องการให้นักเรียนที่จะเรียนรู้จากมันในแง่ของทั้งเทคโนโลยีและเนื้อหาทางวิชาการ." ซึ่งหมายถึงครูผู้สอนควรสร้างและปลูกฝังการเรียนรู้ของนักเรียนในห้องเรียนภาษาเพื่อที่จะทำให้พวกเขา ครูผู้สอนจำเป็นต้องรู้วิธีที่จะใช้เทคโนโลยีการเรียนการสอนในการสอนนักเรียน

 การบูรณาการเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอน
            การบูรณาการเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอน ครูควรพิจารณาถึงสิ่งที่ต้องการให้เด็กเรียนรู้ ทั้ง ด้านเทคโนโลยีและเนื้อหาด้านวิชาการ และเป็นสิ่งสำคัญเพื่อทบทวน วัตถุประสงค์ ขั้นตอน และการประเมินผลงาน ทั้งสองประเภทของเทคโนโลยีการเรียนการสอน คือ ESOLและ ELL ซึ่งเป็นการสอนที่ผสมผสานการสื่อสารระหว่างกัน เช่น การสนทนาออนไลน์ และเทคโนโลยีแบบคงที่ เช่นpodcasting

                

 กรณีศึกษาของผู้เรียนภาษา (The ELL Case study)
           ในการเรียนการสอนจะประกอบด้วย นักเรียนและครูสนทนากันเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆในชีวิตจริง เพื่อที่จะให้ครูได้ข้อมูลเกี่ยวข้องกับผู้เรียน ครูสามารถตรวจสอบภาษาศาสตร์ และความรู้เดิมทางวัฒนธรรม การออกแบบสถานการณ์จำลองการศึกษาที่เกี่ยวข้อง และการแก้ปัญหาทางภาษาที่แท้จริง การสร้างภาษาอังกฤษเป็นศูนย์กลางของแหล่งภาษาอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ เพื่อนร่วมงาน ครู และพ่อแม่ ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้
         1. เตรียมความพร้อมกรณีศึกษาโดยการเลือกผู้เข้าร่วมการเรียนภาษาอังกฤษและการทบทวนกรณีศึกษาผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษ
              2. การเก็บรวบรวบข้อมูลจากกรณีศึกษาผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษ
              3. การวิเคราะห์ข้อมูล
              4. การสร้างสถานการณ์ที่สามารถแก้ปัญหาได้

การเขียนบล็อก (Blogging
       ารเขียนข้อมูลเกี่ยวกับกรณีศึกษาซึ่งกลายเป็นบันทึกออนไลน์ของนักเรียน ซึ่งจะอัปโหลดลงเว็บบล็อก อาจเป็นข้อความ, ภาพกราฟิก, ไฟล์ PDF, รูปภาพ, ลิงค์เกี่ยวกับบล็อกต่างๆ

Podcasting
         หลังจากที่นักเรียนมีบล็อกแล้ว พวกเขาก็จะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ Podcasting ได้แก่   การใช้อินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นโปรแกรมเสียงสำหรับการดาวน์โหลด สามารถเล่นเสียงด้วยคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องเล่น MP3


Creating a Wiki
            การสร้างแหล่งข้อมูล (Creating a Wiki) จะทำหลังมีบล็อก ซึ่งครูผู้สอนจะเป็นคนแนะนำวิธีการสอนและกิจกรรมที่ให้เพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาผ่านทางวิกิพีเดียในกระดานดำ (http://www.blackboard.com)

 
Online Discussion
        สนทนาทางออนไลน์ (Online Discussion) จะสนทนาผ่านทางกระดานข้อความ

       

ข้อเสนอแนะในการนำเทคโนโลยีไปใช้    Implications
        ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อนักเรียนและครูเกิดการเรียนรู้ที่เหมือนกันคือ  
 ถ้าเป็นนักเรียน               
                สิ่งที่พวกเขาต้องการเรียนรู้ (What they want to learn?)  
                เมื่อไหร่ที่พวกเขาต้องการที่จะเรียนรู้ (When they want to learn?)
                ที่ที่พวกเขาต้องการเรียนรู้  (Where they want to learn?)  

ถ้าเป็นครู
                สิ่งที่พวกเขาต้องการที่จะสอน  (What they want to teach?)   
                เมื่อไหร่พวกเขาต้องการที่จะสอน (When they want to teach?) 
                ที่ที่พวกเขาต้องการที่จะสอน   (Where they want to teach?)       
 
                     
   เคล็ดลับสำหรับการบูรณาการเทคโนโลยีในห้องเรียน
               
                1.ต้องกล้าเสี่ยงกับเทคโนโลยีใหม่
                2.ต้องคุ้นเคยกับเทคโนโลยีก่อนที่จะแนะนำให้ผู้อื่น
                3.สร้างชุมชนการเรียนรู้ในเชิงบวก
                4.ค้นหาและใช้บทเรียนต่างๆและเว็บไซต์ที่เป็นประโยชน์









  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Asynchronous & Synchronous Tool



Asynchronous Tools


   Asynchronous tools enable communication and  collaboration over a period of time through a "different time different place" mode. These tools allow people to connect together at each person's own convenience and own schedule. Asynchronous tools are useful for sustaining dialogue and collaboration over a period of time and providing people with resources and information that are instantly accessible, day or night.
    Asynchronous tools possess the advantage of being able to involve people from multiple time zones. In addition, asynchronous tools are helpful in capturing the history of the interactions of a group, allowing for collective knowledge to be more easily shared and distributed. The primary drawback of asynchronous technologies is that they require some discipline to use when used for ongoing communities of practice (e.g., people typically must take the initiative to "login" to participate) and they may feel "impersonal" to those who prefer higher-touch synchronous technologies.


 Synchronous Tool

   Synchronous tools enable real-time communication and collaboration in a "same time-different place" mode. These tools allow people to connect at a single point in time, at the same time. 
   Synchronous tools possess the advantage of being able to engage people instantly and at the same point in time. The primary drawback of synchronous tools is that, by definition, they require same-time participation -different time zones and conflicting schedules can create communication challenges. In addition, they tend to be costly and may require significant bandwidth to be efficient.


Referent 
 By: Julia Ashley , iCohere







  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Exercise - acronyms



Directions: Find words or phrases standing for the following acronyms with short descriptions.
1. IT  "  Information technology 
เทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ สารสนเทศ หมายถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เมื่อรวมคำว่าเทคโนโลยีกับสารสนเทศเข้าด้วยกัน จึงหมายถึงเทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ                                                
                ที่มา http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/network/it/#sect2 


2. ICT  " Information and Communication Technology
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  หมายถึง เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารข้อมูลและการสื่อสาร นับตั้งแต่การสร้าง การนำมาวิเคราะห์หรือประมวลผล การรับและส่งข้อมูล การจัดเก็บและการนำไปใช้งานใหม่ เทคโนโลยีเหล่านี้มักจะหมายถึง คอมพิวเตอร์ ซึ่งประกอบด้วยส่วนอุปกรณ์ (hardware) ส่วนคำสั่ง (software) และส่วนข้อมูล (data) และระบบการสื่อสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ ระบบสื่อสารข้อมูล ดาวเทียมหรือเครื่องมือสื่อสารใดๆ ทั้งมีสายและไร้สาย (ความหมายตามที่ให้ไว้ในแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย พ.ศ. 2545-2549) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันทุกวันนี้อย่างยิ่ง จึงตั้งหน่วยงานขึ้นรองรับและบริการ เกิดเป็นกระทรวงใหม่ชื่อ "กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร-Ministry of Information and Communication Technology" หรือกระทรวงไอซีที-ICT

3. CAI   "   Computer-Assisted Instruction
คือ โปรแกรมบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรือคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่มีหน้าที่เป็นสื่อการเรียนการสอนเหมือนแผ่นใส (Transparent) สไลด์ (Slide) หรือวีดีทัศน์ (Video) ที่ใช้ประกอบการเรียนการสอน  ฉะนั้น CAI ก็คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ช่วยสอน โดยมีการกำหนดให้ผู้เรียนสามารถโต้ตอบหรือมีปฏิสัมพันธ์กับการเรียนได้เช่นเดียวกับการเรียนในห้องเรียนกับครู  เพียงแต่มีคามยืดหยุ่นน้อยกว่าเท่านั้น

4. CALL  "  Computer Assisted Language Learning
หมายถึงโปรแกรมช่วยเรียนภาษาโดยเฉพาะ ใช้ได้ทั้งกับการเรียนในห้องเรียน โดยมีผู้สอนเป็นผู้ควบคุมดูแลกระบวนการเรียน และการให้ผู้เรียนเรียนจากโปรแกรมด้วยตนเองที่ศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-access learning center) หรือที่ศูนย์คอมพิวเตอร์และสำหรับสถานศึกษาทีมีความพร้อมก็อาจมอบแผ่นโปรแกรมให้ผู้เรียนนำไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์นอกสถานศึกษาโดยผ่านโมเด็มและสายโทรศัพท์
                ที่มา http://natchanok557.blogspot.com/p/call.html

5. WBI   "   Web Based Instruction
หมายถึง การเรียนการสอนผ่านเว็บเป็นการจัดสภาพการเรียนการสอนที่ได้รับการออกแบบอย่างมีระบบ โดยอาศัยคุณสมบัติและทรัพยากรของเวิลด์ไวด์เว็บ มาเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพโดยอาจจัด เป็นการเรียนการสอนทั้งกระบวนการหรือนำมาใช้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการทั้งหมดและช่วยขจัดปัญหาอุปสรรคของการเรียนการสอนทางด้านสถานที่และเวลาอีกด้วย
              ที่มา http://student.nu.ac.th/fon/wbi.html

6. CBI   "  Computer Based Instruction
หมายถึง วิธีการสอนหรือการฝึกหัดใด ๆ ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อ บางทีอาจเรียกว่าการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อ, การเรียนโดยใช้คอมพิวเตอร์, การฝึกหัดโดยใช้คอมพิวเตอร์


               
               ที่มา  http://www.edu.nu.ac.th/supanees/lesson/366515/unit5_p04.html

7. CMC  "  Computer Mediated Communication
CMC เป็นการติดต่อสื่อสารโดยปรากฏตัวผ่านรูปแบบสื่อคอมพิวเตอร์ เช่น Instant messages, E-mail, Chat room  และยังได้รับการปรับใช้ในรูปแบบอื่นๆ ของการใช้ตัวอักษรเป็นหลัก เช่น Text Messaging หรือการส่ง SMS (short message service)บนมือถือ ในการวิจัยเรื่อง CMC จะโฟกัสในเรื่องใหญ่ๆ คือ ผลตอบกลับทางสังคมที่ได้รับการสนับสนุนของเทคโนโลยีการสื่อสารที่แตกต่างกัน และเมื่อไม่นานมานี้มีการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นหลัก Social Networking ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยSocial Software
                ที่มา : http://www.thekanostudio.com/assignment_01cmc.htm

8. TELL "  Technology-Enhanced Language-Learning
Technology-Enhanced Language-Learning (TELL) in an increasingly globalised world. It is not a technicalpaper in thesense that it will deal with methodological or software issues.
                       
 ที่มา:http://www.stc.arts.chula.ac.th/ITUA/Papers_for_ITUA_Proceedings/Andrew-Lian.pdf
9. MUD "   Multi User Domains
MUD เป็นคำย่อมาจาก Multi User Domains หรือชื่ออื่น ๆ ที่เรียกกันก็มี Multi User Dimension , Muti User Dungeons)






               ที่มา : http://senarak.tripod.com/mudmoo.html
10. MOO  "  Multiuser domain Object Oriented
MOO  เป็นระบบของการสื่อสารที่เป็น แบบซิงโครนัสที่ผู้ใช้(users) สามารถปฎิสัมพันธ์กันได้ด้วยการพิมพ์ข้อความ(text) โดยผู้สื่อสารกันนั้นสามารถ เลือกห้องหรือสถานที่สนทนากันได้  ซึ่งผู้สนทนาจะต้องอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่า room เดียวกัน




                ที่มา : http://senarak.tripod.com/mudmoo.html










  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ปัญหาและกลยุทธ์ของเทคโนโลยีมัลติมีเดียในการสอนภาษาอังกฤษ

บทนำ


         ศตวรรษที่ 21 เป็นยุคโลกาภิวัฒน์   วิทยาศาสตร์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ซึ่งจำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ    การพัฒนาของเทคโนโลยีมัลติมีเดียและการประยุกต์กับการเรียนการสอนรูปแบบการสอนแบบดั้งเดิม ไม่เหมาะสำหรับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษร่วมสมัยและเทคโนโลยีมัลติมีเดียจึงมีเสียงภาพ,ภาพเคลื่อนไหวมาเต็มรูปแบบในการเรียนการสอนชั้นเรียนภาษาอังกฤษ และชุดแพลตฟอร์มที่ดีสำหรับการปฏิรูปและการสำรวจเกี่ยวกับรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษในยุคใหม่ เทคโนโลยีมัลติมีเดียมีบทบาทในเชิงบวกในการส่งเสริมกิจกรรมและความคิดริเริ่มของนักเรียนและผลการเรียนการสอนในชั้นเรียนภาษาอังกฤษช่วยกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้มากขึ้น

ความจำเป็นของการใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อการสอนภาษาอังกฤษ

A. การปลูกฝังความสนใจของนักเรียนในการเรียน      
     ปัจจุบันนี้วิธีการสอนที่ตายตัวแบบดั้งเดิมและสภาพแวดล้อมที่เป็นที่นิยม  ในขณะที่เทคโนโลยีมัลติมีเดียที่มีระบบเสียงภาพ,ภาพเคลื่อนไหวตามธรรมชาติช่วยกระตุ้นความสนใจของนักเรียนทำให้ได้รับข่าวสารที่มากขึ้นและสืบค้นข้อมูลได้เป็นอย่างดี ทำให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียน
B. ส่งเสริมความสามารถการสื่อสารของนักเรียน          
       การเรียนการสอนแบบดั้งเดิมทำให้เป็นสิ่งธรรมดาของนักเรียนที่จะเข้าใจภาษา มันยากที่จะบรรลุเป้าหมายของการสื่อสารกับครูที่นำคำแนะนำของนักเรียนรูปแบบการคิดและการสร้างแรงจูงใจอารมณ์ของนักเรียนเทคโนโลยีมัลติมีเดียได้ช่วยส่งเสริมความต้องการของผู้เรียน บูรณาการ การเรียนการสอนและให้นักเรียนจูงใจมากขึ้น. บทเรียน PPTในการสอนภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยสามารถเปิดใช้งานการคิดของนักเรียนภาพและมีชีวิตชีวา  กิจกรรมในชั้นเรียน เช่น การสนทนากลุ่มอภิปรายเรื่องและการอภิปรายยังสามารถให้โอกาสมากขึ้นสำหรับการสื่อสารในหมู่นักเรียนและระหว่างครูและนักเรียน การเรียนการสอนเทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อให้มีแรงบันดาลใจที่ไม่ซ้ำกันความคิดเชิงบวกของนักเรียนและทักษะการสื่อสารในการปฏิบัติทางสังคม  
C. เพื่อขยายความรู้ของของนักเรียนเพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งถึงวัฒนธรรมตะวันตก     
   บทเรียนแผ่นดิสก์มัลติมีเดียสามารถนำเสนอข้อมูลของนักเรียนได้มากมาย มีการครอบคลุมภาษาอังกฤษมัลติมีเดียกว้างไกลกว่าตำราด้วยเนื้อหาและวัสดุภาษามีชีวิตจริงซึ่งมีมากตามธรรมชาติและใกล้กับชีวิต ผู้เรียนสามารถพัฒนาความสามารถในการฟังของพวกเขา แต่ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมตะวันตก การรู้ข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆสามารถจัดให้นักเรียนมีความรู้และนำมาเกี่ยวกับข้อมูลร่วมกันในหมู่นักศึกษาและทำให้พวกเขามีส่วนร่วมในการอภิปรายในชั้นเรียนและการสื่อสาร บูรณาการของมนุษย์และเครื่องจักรการสื่อสารและการสื่อสารระหว่างบุคคลนำไปสู่การพัฒนาโดยรวมของการฟังของนักเรียนการพูดการอ่านและการเขียน
D. การปรับปรุงผลการเรียนการสอน     
      เสริมสร้างการเรียนการสอนมัลติมีเดียการเรียนการสอนเนื้อหาและรูปแบบการแบ่ง "ครูเป็นศูนย์กลาง" การเรียนการสอนและพื้นฐานการปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียน มันเป็นเรื่องธรรมดามากที่นักเรียนของพวกเรามีชั้นเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียนขนาดใหญ่มากยังหนาแน่น ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวจึงเป็นเรื่องยากสำหรับนักเรียนที่จะมีการพูดสื่อสาร รูปแบบการสอนแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่เน้นการเรียนการสอนเกี่ยวกับครูและให้ข้อมูลที่ถูก จำกัด ที่ตรงกันข้ามเทคโนโลยีมัลติมีเดียไปเกินเวลาและพื้นที่สร้างขึ้นสดใส,ภาพ,สภาพแวดล้อมที่แท้จริงสำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจะช่วยกระตุ้นความคิดริเริ่มของนักเรียนและประหยัดเวลาในชั้นเรียน

III การวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อการสอนภาษาอังกฤษ
       
     ข้อได้เปรียบของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อการเรียนการสอนชั้นเรียนภาษาอังกฤษในการปรับปรุงผลการเรียนการสอนและนักศึกษามหาวิทยาลัย  โดยรวมมีปัญหามากที่มีอยู่ในการเรียนการสอนในทางปฏิบัติ  เช่น
A.ความหมายหลักแทนที่ด้วยการช่วยเหลือแบบหนึ่ง  
     การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเป็นเครื่องมือที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อให้บรรลุผลการเรียนการสอนที่คาดการณ์ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์มัลติมีเดียในระหว่างการเรียนการสอนครูผู้สอนมากเกินไปทำให้ครูไม่มีบทบาทในการสอน  ในทางปฏิบัติของครูมีการใช้งานในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อให้พวกเขามีส่วนร่วมมากในการค้นหาข้อมูลและการทำงานออกบทเรียน ในชั้นเรียนที่พวกเขาใช้คอมพิวเตอร์นักเรียนจะสนใจบนหน้าจอของพวกเขาเท่านั้น   ดังนั้นครูและนักเรียนจึงไม่มีสายตาระหว่างกัน  ด้วยเหตุนี้ความคิดของการศึกษาความคิดสร้างสรรค์ควรจะเข้าใจอย่างเต็มที่ว่าเทคนิคการศึกษาที่ทันสมัย​​ให้บริการที่ให้ความช่วยเหลือมากกว่าเป้าหมายและที่ไม่ควรครองชั้น ด้วยความช่วยเหลือของคอมพิวเตอร์ในการเรียนการสอนครูควรจะใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่หลักสูตรทางด้านวิชาการและวัสดุการเรียนการสอนที่จะหาวิธีการมากความรู้ของนักศึกษาของเราได้รับข้อมูลมัลติมีเดียควรจะน้อยลงและนำที่ดีขึ้นโดยเน้นที่โดดเด่นและนวัตกรรมใหม่ในการเรียนการสอน
B. จะสูญเสียการสื่อสารโดยการพูด 
      การใช้สื่อมัลติมีเดียมากเกินไปทำให้ขาดปฏิสัมพันธ์ในชั้นเรียนและส่งผลให้การขาดการสื่อสารระหว่างครูและนักเรียนเสียงของครูจะถูกแทนที่ด้วยเสียงของคอมพิวเตอร์
C. ทำให้ความสามารถในการคิดลดลง       
     การคิดและการชื่นชมในความสวยงามของภาษาอาจจะทำให้บรรยายกาศของการเรียนเรียกว่า  happy learning มันไม่เกิด เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่า มัลติมีเดียจะมีบทบาทที่ดีในการเรียนการสอน แต่จุดประสงค์สำคัญของการเรียนการสอนเน้นให้ผู้เรียนได้คิด ซึ่งคอมพิวเตอร์ ซอฟแวร์ต่างๆไม่สามารถที่จะแทนที่กระบวนการคิดของผู้เรียนได้
D. คิดนามธรรมจะถูกแทนที่ด้วยความคิด Imaginal  
     การสอนแบบดั้งเดิมเมื่อครูต้องการเล่าเรื่องครูจะสอนอะไร มันไม่มีมัลติมีเดียครูต้องอธิบายให้นักเรียนคิดจินตนาการตามไปว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่มัลติมีเดียปัจจุบันการเรียนการสอนง่าย ทุกอย่างเห็นภาพชัดเจน ความสามารถในการอ่านของผู้เรียนก็จะถูกแทนด้วยเสียงจากซีดีหรือจากคอมพิวเตอร์ การเขียนของผู้เรียนถูกแทนที่ด้วยคีบอร์ดในการพิมพ์   เมื่อไหร่ก็ตามที่ใช้มัลติมีเดียให้สถานการณ์ก็จะเลวร้ายไปกว่าเดิม           
     มัลติมีเดียเป็นเครื่องมือที่ให้ความช่วยเหลือไม่สามารถแทนที่บทบาทที่โดดเด่นของครูผู้สอนและเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนการสอนที่สมบูรณ์ นอกจากจะไม่เลียนแบบช่างของการเรียนการสอนค่อนข้างจะรวมภาพต้นฉบับเดิม 
  ประสบการณ์ในการสนับสนุนโครงการการเรียนการสอนโปรแกรมอัตโนมัติและต่อเนื่องเพื่อเพิ่มการปรับปรุงโดยรวมของนักเรียนการฟัง การพูด  การอ่าน และการเขียน

IV ข้อเสนอแนะและกลยุทธ์ในการปัญหาที่มีอยู่        
     ในการเรียนการสอนในทางปฏิบัติก็เป็นที่ไม่เหมาะสมที่เนื้อหาต้นฉบับเดิมจะซ้ำกันเพียงแค่ไปที่หน้าจอเพื่อให้ตำแหน่งของครูจะถูกละเว้น เพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานของมัลติมีเดียในการเรียนการสอนก็ควรจะตั้งข้อสังเกตว่า:
A.  บทเรียน ไม่ทำแต่สิ่งที่สวยงามอย่างเดียว    
     บทเรียนไม่ทำแต่สิ่งที่สวยงามอย่างเดียว เราต้องมีการกระตุ้นให้เกิดมีการสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนและพัฒนาทักษะการฟัง พูด ซึ่งคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเติมเต็มตรงนั้นได้ เพราะฉะนั้นการแปลหรือฝึกตีความของครูยังจำเป็นในการเรียนการสอน  คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำทุกอย่างได้ครูต้องช่วยอธิบายเติมเติมด้วย   นอกจากนี้มัลติมีเดียใช้ได้แต่ใช้เป็นตัวช่วยครูให้มีประสิทธิภาพในการสอนมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าไม่นั้นครูก็เป็นเพียงแค่คนกำกับเท่านั้น
B. หน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทดแทนกระดานดำ   
     หน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทดแทนกระดานดำ เพราะกระดานเราสามารถแก้ไขเพิ่มเติมตลอดเวลาได้  ซึ่งการเรียนการสอนเด็กต้องมีคำถามที่ไม่คาดคิดอยู่ตลอดเวลา  ถ้าใช้กระดานดำครูสามารถเขียนอธิบายแก้ไขเพิ่มเติมได้เพราะฉะนั้นอย่าใช้แต่จอคอมพิวเตอร์
C. PowerPoint ไม่สามารถใช้ในการแยกความคิดและปฏิบัติได้    
      ปัจจุบันมัลติมีเดียมากที่สุดส่วนใหญ่มีบทเรียนเกี่ยวกับภาพและภาพเคลื่อนไหวจากสื่อการสอนก่อให้เกิดผลกระทบให้นักเรียนไม่ได้เกิดการคิด อภิปราย   บทเรียนต้องทันสมัยใช้แต่ PPT การตั้งคำถามของครูในการเข้าสู่บทเรียนยังจำเป็นและยังกระตุ้นนักเรียนด้วย
D. เครื่องมือการเรียนการสอนแบบดั้งเดิมและอุปกรณ์ไม่ควรมองข้าม     
     มัลติมีเดียให้ความช่วยเหลือในการเรียนการสอนไม่สามารถแทนที่ด้วยเครื่องมืออื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นครูควรจะเลือกสื่อที่เหมาะสมตามความต้องการของการสอนและบูรณาการที่ใช้ในการมัลติมีเดียที่มีประเพณีอย่างหนึ่งอย่างเต็มที่และดำเนินการทำบุญของพวกเขามากกว่าเพียงในการแสวงหาวิธีการที่ทันสมัย
E. เทคโนโลยีมัลติมีเดียไม่ควรมีมากเกินไป        
    ไม่ควรใช้สื่อมัลติมีเดียมากเกินไปเพราะถ้าใช้มากเกินเพราะถ้าใช้มากเกินไปจะทำให้เด็กเหมือนจะสนใจแต่ที่จริงแล้วเด็กนั่งดูเฉยๆ และเด็กก็ไม่ได้เกิดการเรียนรู้

       


  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ผู้ติดตาม

English Conversation